ท่านที่มีอาการตามัว มองภาพไม่ชัด เมื่อได้รับการวินิจฉัยจากจักษุแพทย์ว่าเกิดจากสายตาผิดปกติ เช่นสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง สายตายาวในผู้สูงอายุ จักษุแพทย์จะทำการวัดแว่นเพื่อหาค่าของสายตา (ค่าของกำลังเลนส์แว่นตา) และแนะนำให้ท่านใส่แว่นสายตาเพื่อแก้ไขสภาวะดังกล่าว ทำให้เห็นได้ชัดเจนเป็นปกติ   จักษุแพทย์จะเขียนใบสั่งให้ท่านนำไปตัดแว่นกับช่างแว่นตาซึ่งท่านควรจะต้องมีความรู้อยู่บ้างในการเลือกกรอบแว่นที่เหมาะสม มีคุณภาพดี

การเลือกกรอบแว่น เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้แว่นตาท่านใส่ได้สบาย และใช้ประโยชน์ได้เต็มที่โดยมีหลักทั่วไปในการเลือกดังนี้

        เลือกขนาดของกรอบแว่นให้เหมาะสมกับความหนาของเลนส์แว่นตา เช่นกรอบแว่นโลหะบางๆ ทรงรีขนาดเล็กมักจะบอบบางเกินไปที่จะใช้กับเลนส์ที่หนาและหนัก แต่กรอบแว่นที่ใหญ่เกินไปถ้าใช้กับเลนส์ที่หนักก็จะยิ่งทำให้เลนส์หนักมากขึ้น ใส่ไม่สบาย จึงควรเลือกกรอบให้มีขนาดปานกลาง

     เลือกให้เหมาะกับชนิดของเลนส์แว่นตา เช่น โปรเกรสสีพเลนส์ (Progressive lenes ) ซึ่งเป็นเลนส์ที่ใช้ดูได้ทุกระยะโดยไม่มีรอยต่อถ้ากรอบขนาดเล็กเกินไปจะทำให้บริเวณเลนส์ส่วนที่ใช้ดูใกล้เหลือน้อย จึงควรเลือกกรอบที่ค่อนข้างใหญ่

          เลือกกรอบแว่นที่ทำจากวัสดุที่มีคุณภาพดีน้ำหนักเบา คงทน แข็งแรง ไม่ลอก ไม่แพ้ เช่น กรอบแว่นที่ทำจากไททาเนียม ซึ่งเป็นโลหะที่มีคุณสมบัติดังกล่าว แต่มีราคาค่อนข้างสูง

                   เลือกให้รับกับใบหน้า โดยเลือกกรอบแว่นที่มีรูปทรงตรงข้ามกับรูปหน้า เช่น หน้ากลมควรเลือกกรอบที่ค่อนข้างเหลี่ยม หน้าแหลมควรเลือกกรอบที่ส่วนล่างกว้าง รูปหน้าสี่เหลี่ยมแนะนำให้เลือกกรอบค่อนข้างกลม

·                    การเลือกกรอบแว่นสำหรับเด็ก ไม่ควรเลือกขนาดเล็กเกินไปเพราะเด็กโตเร็ว แต่ก็ไม่ควรให้ใหญ่เกินไปเพราะแว่นจะหลวมทำให้เด็กมองลอดแว่นได้ ควรเผื่อขนาดไว้เพียงเล็กน้อยเนื่องจากสายตาในเด็กมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด จึงมักมีการเปลี่ยนแว่นบ่อยกว่าผู้ใหญ่อยู่แล้ว กรอบแว่นควรมีขาที่มีบานพับชนิดที่เป็นสปริงยืดหยุ่นได้ ทำให้เด็กถอดใส่ได้สะดวก มีสายรัดศีรษะให้แว่นอยู่กับที่หรือจะใช้เป็นแบบที่มีขายาวโค้งรัดไว้หลังใบหู แป้นจมูกทำด้วยซิลิโคนช่วยไม่ให้ลื่น ในเด็กที่โตและรู้เรื่องดีพอควรปล่อยให้เด็กเลือกแบบเองโดยมีผู้ปกครองคอยแนะนำ ทำให้เด็กพอใจกับกรอบแว่นที่เลือก เด็กจะชอบใส่แว่น

           เครื่องประดับในการแต่งกายด้วยเสื้อผ้าแฟชั่น อาจมีทั้งแว่นกันแดด ที่คาดผม ต่างหู เข็มขัด นาฬิกา กระเป๋า ไม่เว้นแม้แต่ รองเท้าเก๋ๆ สักคู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ต้องการความโดดเด่น สง่า รองเท้าส้นสูง เป็นทั้งตัวช่วย ยังนับเป็นหนึ่งในแอสเซสเซอรี่สุดชิคได้แบบต้องยอมสยบ แต่ทว่า จะมีกี่คนที่เลือกสวมรองเท้าส้นสูง เพื่อเป็นอุปกรณ์เสริมการแต่งกายในส่งเสริมเสื้อผ้าแฟชั่นให้ดูดี พร้อมไปกับส่งเสริมให้คุณมีบุคลิกที่ดีขึ้น สง่าผ่าเผยขึ้น

          รองเท้าส้นสูงแบบสเนคสกิน ชาร์มเมอร์ (Snakeskin Charmers) .. แปลตรงๆ ตัวเลยก็คือ รองเท้าส้นสูงที่ทำมาจากหนังงู ซึ่งเพิ่มเสน่ห์ และความเย้ายวนให้แก่ผู้สวมใส่ อาจมีทั้งสีเรียบๆ สีฉูดฉาด โดยการใส่รองเท้าส้นสูงแบบสเนคสกิน ชาร์มเมอร์ ควรเลือกเสือผ้าที่มีสีโทน ดำ ขาว หรือ โทนอ่อนๆ เพื่อดึงความโดดเด่นจากร้องเท้า 

          รองเท้าส้นสูงแบบ มัลติพลาย เพอร์ชั่นแนลลิตี้ ชูส์ (Multiple Personality Shoe).. สะดุดตาด้วยความสูงลิบลิ่ว แต่เชื่อหรือไม่ว่า หากหมั่นใส่ หมั่นทรงตัวและเดินเหินจนคล่องแล้ว คุณจะยิ่งสูงสง่าได้มาก และการใส่รองเท้าแบบนี้ กิมมิคอยู่ที่การเพิ่มเติมลูกเล่นด้วยการใส่สร้อยข้อเท้า จะยิ่งทำให้ดูมีลูกเล่น หรือหากจะใส่กับกางเกงขายาว ก็ควรมีความยาวแค่ปิดข้อเท้าก็เริ่ดได้แล้ว

          รองเท้าส้นสูงแบบสไพค์ สเลทโต้ (Spiked Stilettos).. เป็นอีกสไตล์ที่ฮิตในตอนนี้ ดูพังค์ร๊อคเล็ก แต่โชว์ความหรูหรา และดึงเสน่ห์อันร้อนแรงของหญิงสาวออกมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ 

          รองเท้าส้นสูงแบบจีเวล โท (Jewel Toed) ..  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยามค่ำคืนที่ต้องไปฉลองปาร์ตี้แล้วล่ะก็ รองเท้าแบบนี้คือเพื่อนคนสนิทเลยก็ว่าได้ รองเท้าแบบนี้เข้าได้กับทุกชุด หรือแม้แต่ใส่กับกางเกงยีนส์ก็ไม่มีปัญหา

          รองเท้าส้นสูงแบบแกรมเมอร์รัส แกลดดิเอเตอร์ (Glamorous Gladiator).. รองเท้าแบบนี้เน้นความมีเสน่ห์ที่ยั่วยวนและดึงดูดใจเรียบหรูปนเซ็กซี่เล็กๆ คุณจะยิ่งมั่นใจเกินร้อย

          รองเท้าส้นสูงแบบสแทรพ สเลทโต้ (Strapping Stilettos)..  หนังกิ๊ปเก๋ ไม่มีอะไรสามารถบอกถึงความสวยงามของรองเท้าส้นสูงสีดำได้ นอกจากลายการออกแบบของมัน ลายของมันจะทำให้คุณมีแรงบันดาลใจและอยากจะใส่มันให้ดูกิ๊ปเก๋ในทุกๆวัน มันขึ้นอยู่กับลายหนังแรงองค์ประกอบของมัน สำหรับรองเท้าหนังลายกิ๊ปเก๋สีดำนี้

ในช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา ได้มีเหตุการณ์ ทางด้านภัยพิบัติ ที่ร้ายแรง เกิดขึ้น มากมายทั่วโลก ที่เกิดจากอุณหภูมิ ของโลก ที่เพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี เช่น ภาวะเรือนกระจก, โลกร้อน เป็นต้น  ผู้คนทั่วโลก ได้ ตระหนัก ถึงหายนะต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับโลก และมีการรณรงค์ ในเรื่องต่างๆ ที่จะช่วยกันลดโลกร้อน ซึ่งการใช้กระเป๋าผ้าแทนถุงพลาสติก ก็เป็นหัวข้อหนึ่ง ที่ถูกนำมารณรงค์กันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นธุรกิจประเภทหนึ่งที่ผู้คนต่างสนใจและพยายามขยายฐานลูกค้ามากยิ่งขึ้น

                การรับทำกระเป๋าผ้า นั้นไม่เพียงต้องเน้นในเรื่องของการใช้ประโยชน์ แต่ผู้ทำธุรกิจต้องสามารถเน้นในเรื่องของงานออกแบบ การสร้างสรรค์ชิ้นงาน ความประณีต หรือแม้แต่ควาคิดสร้างสรรค์ที่เกิดจากแนวคิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการที่ได้พูดคุย กับลูกค้า หรือ จากแนวคิดในเรื่องของการกระตุ้นเตือน ให้ผู้คน หันมาใช้ถุงผ้า เพื่อลดขยะถุงพลาสติก ซึ่ง ในลายสกรีน หลายๆ งานที่ออกมานั้น ได้มีแนวคิดริเริ่ม และสร้างสรรค์ มาจากลูกค้า และทางผู้ทำธุรกิจกระเป๋าผ้าเองก็ต้องนำมา พัฒนา ปรับแต่ง ปรับปรุง ให้สวยงาม เพื่อให้กระเป๋าผ้า มีความน่ารัก-น่าใช้และเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ นอกจากนี้ ต้องรู้จักนำเทคโนโลยีนาโนหรือเทคโนโลยีที่สามารถต่อยอดทางธุรกิจมาใช้ เพื่อรังสรรค์ผืนผ้าและสร้างสรรค์งานกระเป๋าผ้า ในเกิดความหลากหลาย รูปแบบ เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้ลูกค้าด้วย 

               ทั้งนี้งานผลิตกระเป๋าผ้า ควรเข้าถึงชุมชน โดย ให้โอกาส แม่บ้าน ที่มีฝีมือ ในการเย็บจักร มาเป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนของการผลิต ดังนั้นงานผลิตกระเป๋าผ้า จึงเป็นธุรกิจที่ทำให้คนในประเทศสามารถสร้างรายได้  ไม่ใช่แค่กลุ่มนักธุรกิจแต่ยังช่วยกระจายรายได้ลงสู่ชุมชนหรือครอบครัวได้อีกด้วย

           ทุกวันนี้ ชุดนอนเซ็กซี่ ไม่ว่าจะเป็นตัวเสื้อ กางเกงใน จีสตริง หรือทีสตริงก็ตาม ล้วนจัดเป็นเสื้อผ้าประเภทพิเศษ (ซึ่งไม่ได้ใส่กันโดยปกติทั่วไป) จึงมักมีราคาแพง ทั้งเนื้อผ้า วัสดุที่ใช้ ลวดลาย และแบบรูปทรงจะเสริม จะกระชับ ล้วนแล้วจะออกแบบตัดเย็บมาเอาใจสาวๆ ซึ่งชุดนอนเซ็กซี่เหล่านี้ ต้องอาศัยวิธีซักการดูแลเป็นพิเศษเพราะเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในเรื่องสุขภาพอนามัยสำหรับตัวเรา และยังเป็นการทำความสะอาดสิ่งสกปรก ฝุ่น คราบไขมัน หรือสารเคมีที่เกิดขึ้นในระหว่างผ่านกระบวนการตัดเย็บ อีกทั้งตั้งการพับเก็บใส่กล่องพัสดุที่จัดส่งจากร้านค้า อาจกลายเป็นคราบฝังแน่น ทำให้เนื้อผ้าหมอง ซักยากขึ้น เป็นข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆ ในเบื้องต้นที่ไม่ควรข้าม

       เคล็ดลับวิธีการซักชุดนอนเซ็กซี่ของเราด้วยมือ

     1. แยกชุดนอนเซ็กซี่สีขาวและสีสัน ซักคนละครั้ง หรือ อาจจะซักชุดนอนเซ็กซี่สีขาวก่อน แล้วค่อยตามด้วยชุดนอนเซ็กซี่ที่มีสีสัน

     2. ตรวจสอบ จัดสาย ตะขอเกี่ยว ฟองน้ำเสริมตามรูปทรงของชุด หากมีตะขอต้องระวังการไปเกี่ยวกับเนื้อผ้า ลูกไม้ หรือ โครงอาจจะบิดงอในระหว่างซัก

     3. ซักน้ำแรก ชำระล้างสิ่งสกปรก คราบเหงื่อออกจากชุดนอนเซ็กซี่ของเราด้วยน้ำเย็น

     4. เลือกน้ำยาซักผ้า หรือ ผงซักฟอก ตามคำแนะนำของป้ายกำกับของชุดนอนเซ็กซี่นั้นๆ โดยเฉพาะ หรือ เลือกน้ำยาชักผ้า หรือ ผงซักฟอกอย่างอ่อน สำหรับการซักชุดนอนเซ็กซี่ที่ไม่มีฤทธิ์เป็นกรดกัดกร่อน และให้ใช้ปริมาณที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการตกค้าง อันมีผลกับเนื้อผ้า หรือวัสดุของชุดนอนเซ็กซี่นั้น ห้ามใช้น้ำยาฟอกขาวเป็นอันขาด

     5. การซักอาจทำให้ชุดนอนเซ็กซี่เสียทรง และไม่ควรแช่ผ้า หากว่ามีคราบสกปรกมาก ให้เพิ่มน้ำยาซักผ้า หรือ ผงซักฟอก หรือ น้ำยาป้าย หรือ ทำความสะอาดด้วยวิธีพิเศษเฉพาะจุด

     6. ล้างออกด้วยน้ำเย็นสัก 2-3 น้ำ หรือให้แน่ใจว่า ไม่มีน้ำยาซักผ้า หรือผงซักฟอกหลงเหลืออยู่

     7. ซักน้ำสุดท้ายด้วยน้ำยาปรับผ้านุ่มหอมๆ อาจแช่ผ้าไว้สักเล็กน้อย เพื่อให้กลิ่นติดทน และใยผ้าคืนตัว

     8. อย่าบิด แต่ใช้วิธีบีบน้ำออกจากชุดนอนเซ็กซี่ที่ผ่านกระบวนการซักเรียบร้อยแล้วเบาๆ ให้พอแห้งหมาดๆ ก็พอ แล้วกลับตะเข็บด้านในออก สะบัดเบาๆ จัดรูปทรงก่อนผึ่งในที่ที่มีลมโกรก ตากแดดอ่อนๆ พอ อย่าตากไว้กลางแจ้งเชียว เพราะจะทำให้เนื้อผ้าซีด ยางและความยืดหยุ่นตามขอบต่างๆ เสื่อมเร็ว

        เคล็ดลับวิธีการซักชุดนอนเซ็กซี่ ด้วยเครื่องซักผ้า หากว่าจำเป็นต้องซักด้วยเครื่องซักผ้า ซึ่งไม่อยากจะแนะนำเท่าไหร่  เพราะอาจทำให้ชุดนอนเซ็กซี่ของเรา เสี่ยงต่อการบิดเบี้ยวเสียรูปหรือลูกไม้ฉีกขาดได้มาก

     1. แยกชุดนอนเซ็กซี่สีขาวและสีสัน ซักคนคะครั้ง และควรแยกออกจากการซักเสื้อผ้าชนิดอื่นๆ โดยเฉพาะผ้าที่หนาและหนัก อนุโลมให้ซักร่วมกับผ้าเนื้อบางและเบาๆ ได้

     2. ซักน้ำแรก ชำระล้างสิ่งสกปรก คราบเหงื่อออกจากชุดนอนเซ็กซี่ของเรา ด้วยน้ำเย็นกันก่อนจะใส่ในถุงผ้าขนาดพอสมควรปริมาณชุด หรืออาจะใช้ถุงผ้าเล็กๆ สำหรับแยกใส่ชุดนอนเซ็กซี่แต่ละตัว เพื่อป้องกันการเสียทรง

     3. ตรวจสอบ จัดสาย ตะขอเกี่ยว ฟองน้ำเสริมตามรูปทรงของชุดนอนเซ็กซี่ของเรา ระวังตะขอจะไปเกี่ยวกับเนื้อผ้า ลูกไม้ หรือ โครงอาจจะบิดงอในระหว่างซัก หรือ กรณีที่ถอดสายเก็บได้ ก็ให้ถอดมาซักแยกต่างหาก จะดีกว่า

     4. ตั้งโปรแกรมสำหรับซักแบบเดียวกับการซักชุดชั้นในโดยเฉพาะ ถ้าไม่มี ให้เลือกโปรแกรมซักผ้าเบา หรือถนอมเนื้อผ้า เลือกปุ่มน้ำเย็น ไม่ใช้ปุ่มปั่นจนแห้ง และไม่อบแห้ง

     5. เทน้ำยาซักผ้า หรือผงซักฟอก และน้ำยาปรับผ้านุ่ม ให้เลือกน้ำยาซักผ้า หรือ ผงซักฟอก ตามคำแนะนำของป้ายกำกับของชุดนอนเซ็กซี่นั้นๆ โดยเฉพาะ หรือ เลือกน้ำยาชักผ้า หรือ ผงซักฟอกอย่างอ่อน สำหรับซักชุดชั้นในที่ไม่มีฤทธิ์เป็นกรดกัดกร่อน และให้ใช้ปริมาณที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการตกค้าง อันมีผลกับเนื้อผ้า หรือวัสดุของบราชุดชั้นในนั้น ห้ามใช้น้ำยาฟอกขาวเป็นอันขาด หากว่ามีคราบสกปรกมาก ให้เพิ่มน้ำยาซักผ้า หรือ ผงซักฟอก หรือ น้ำยาป้าย หรือ ทำความสะอาดด้วยวิธีพิเศษเฉพาะจุดก่อนที่นำชุดนอนเซ็กซี่ของเราลงในเครื่องซักผ้า

      6. สะบัดชุดที่ผ่านกระบวนการซักเรียบร้อยแล้วเบาๆ ให้เนื้อผ้าคืนตัว กลับตะเข็บด้านในออก จัดรูปทรงก่อนผึ่งในที่ที่มีลมโกรก ตากแดดอ่อนๆ พอนะคะ อย่าตากไว้กลางแจ้ง เพราะจะทำให้เนื้อผ้าซีด ยางและความยืดหยุ่นตามขอบต่างๆ เสื่อมเร็ว

          เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ได้ชุดนอนเซ็กซี่ที่สะอาด   กลิ่นหอมสดชื่นไว้ใส่ใส่วันต่อๆ ไป อยากจะทิ้งท้ายว่าควรซักชุดนอนเซ็กซี่ที่เราสวมใส่แล้วทุกครั้งในแต่ละวัน ไม่ควรเก็บสะสมไว้ซักพร้อมกันหลายๆ ตัว เพื่อป้องกันการหมักหมมของสิ่งสกปรก เหงื่อ คราบไคล จนอาจกลายเป็นคราบเหลืองฝังแน่น และแหล่งสะสมเชื้อโรค  เพื่อที่เราจะได้มีชุดนอนเซ็กซี่ไว้สวมใส่นานๆ